เกษียณ,เกษียณอายุราชการ,ของที่ระลึกเกษียณ

ความสุขวัยเกษียณ

ความสุขวัยเกษียณ

เกษียณ,เกษียณอายุราชการ,ของที่ระลึกเกษียณ
※ คำสอนของผู้เฒ่า ※
.
ชายหนุ่ม หญิงสาวคู่หนึ่งได้พบกับท่านตาอายุเกือบเก้าสิบปี
ทั้งสามพบกันโดยบังเอิญเพราะถนนด้านหน้ามีไม้ล้มขวางทาง
ตอนนี้ทางการกำลังให้คนมาขนย้าย พวกเขาจึงรอที่ศาลาพูดคุยกัน
หญิงสาวเอ่ยถาม
“ท่านตาอายุมากแล้ว ไฉนยังเดินทางเพียงลำพัง”
ชายชราตอบด้วยสีหน้าอ่อนโยน
“ครอบครัวข้าจากไปหมดแล้ว เหลือเพียงข้าผู้เดียว”
ชายหนุ่ม
“ท่านจะไปไหนหรือ ให้ข้าไปส่งดีหรือไม่”
ชายชราส่ายหน้า
“ไม่ต้องหรอก ข้าเดินทางไปเรื่อยๆ ค่ำไหนนอนนั่น
ไม่มีอะไรต้องห่วง ชีวิตข้าข้ามผ่านภูเขา ทะเลกว้างมาแล้ว
ไม่มีอะไรต้องกังวล หวาดกลัว ที่สำคัญแม้ครอบครัวจะจากไปแล้ว
แต่เดี๋ยวข้าก็ได้พบพวกเขาจะคิดมาไปทำไมกัน”
หญิงสาวได้ฟังก็รู้สึกอยากสนทนาด้วย
“ท่านตา สิ่งใดที่ทำให้ท่านมีความสุขที่สุดในชีวิตหรือเจ้าคะ”
ชายชราตอบกลับไป
“ตราบที่ข้ายังมีประโยชน์ข้าก็มีความสุขที่สุด”
หญิงสาวแปลกใจในคำตอบจึงถามต่อ
“แล้วสิ่งใดที่ทำให้ท่านเสียใจที่สุดเจ้าคะ”
“เมื่อใดที่ข้าไร้ประโยชน์ต่อโลกใบนี้ นั่นคือความเสียใจที่สุด”
ชายหนุ่มแย้งว่า
“ท่านตา ท่านจะแบกโลกไว้ทั้งใบไม่ได้นะขอรับ สรรพสิ่งมีวิถี
ตามครรลองของมันเอง ยามนี้ท่านแก่ชราแล้ว สมควรหยุดพัก”
ชายชราหัวเราะ
“พ่อหนุ่ม ยามที่เจ้าชวนข้าคุยก็เท่ากับข้าได้ทำประโยชน์แล้ว
การทำประโยชน์ให้โลกใบนี้ไม่ใช่แค่การแบกหาม
หรือไปเที่ยวแบกความรู้สึกของใคร แต่เป็นสิ่งที่เราสมัครใจทำ
เพื่อให้การดำรงอยู่มีคุณค่ามากที่สุด”
ชายชราผายมือให้คนหนุ่มสาวได้เห็น
“พวกเจ้าเห็นต้นไม้ไหม ต้นไม้อยู่กับที่แต่กลับให้คุณมากมาย
พวกเขาให้ร่มเงา ให้อากาศที่บริสุทธิ์ เป็นที่พักพิงแก่เหล่าสัตว์มากมาย
บ้างเป็นอาหารให้ทั้งคนและสัตว์ ขนาดพวกเขาเคลื่อนย้ายตนเองไม่ได้
ยังคงมีประโยช์มากมาย แล้วคนอย่างเราจะไม่ทำประโยชน์ให้ผู้อื่นเลยหรือ”
ชายหนุ่มพยักหน้ารับฟัง
“ข้าขอถามหน่อยเถอะท่านตา แล้วในวัยของท่านตอนนี้
นอกจากพูดคุยแล้ว ท่านทำอะไรได้อีกบ้างขอรับ”
ชายชราหัวเราะร่า
“เยอะแยะเลย ข้าเคยช่วยนกที่ตกน้ำให้รอดตายได้
ข้าเคยเดินผ่านครอบครัวยากจนและหยุดสอนหนังสือเด็กๆ
อยู่สามเดือน จนพวกเขา นับเลขได้ คิดเลขเป็น
ข้าเคยทานอาหารแล้วเห็นขอทานสองคนพ่อลูกเดินทางผ่านมา
ข้าชวนพวกเขามาทานอาหารด้วย แต่เมื่อร้านไม่อนุญาต
ข้าก็แค่ซื้อไก่ให้พวกเขาคนละน่อง หมั่นโถวสามลูกต่อคน
และได้น้ำอีกหนึ่งถุงต่อคน
ข้าเคยช่วยหญิงชราวัยเดียวกันถือของกลับบ้านนาง
นางแก่มากแล้ว แต่ยังต้องทำงานเลี้ยงลูกที่พิการ
ข้าเคยนั่งฟังหญิงหม้ายที่สามีทอดทิ้ง
และนางจะพาลูกชาย ลูกสาวมาโดดแม่น้ำตาย
ข้านั่งคุยครึ่งค่อนวันจนนางยอมวางโศกเศร้าและจูงลูกๆกลับบ้าน
ข้าแอบตามไปเห็นนางปาดน้ำตาทำครัวให้ลูกๆกิน
และบอกลูกๆ ว่าต่อไปต้องช่วยนางทำสวนนะจะได้ไม่อดตาย
ข้าไม่ได้ทำการใหญ่อะไรเลย แค่ทำประโยชน์เล็กๆ น้อยก็เท่านั้น
แม้จะไม่ยิ่งใหญ่ แต่นกน้อยตัวนั้นก็ยังรอดชีวิต
พ่อลูกคู่นั้นไม่ต้องหิวตายในวันนั้น
ครอบครัวหนึ่งสามารถคิดเลขได้เป็น ก็จะไม่โดนหลอกเวลาไปซื้อของ
หญิงชราผู้นั้น วันนั้นนางได้พักเหนื่อยหนึ่งวัน เพราะมีคนช่วยแบกของ
ข้าช่วยให้สามแม่ลูกรอดชีวิตได้ เพราะแค่นั่งฟังนางระบายความในใจ
ก็แค่นั้นเอง ชีวิตคนเรามันก็แค่นั้นเอง”
ชายหนุ่มหญิงสาวรู้สึกประทับใจมากๆกับคำสอนของชายชรา
ใช่แล้วการดำรงอยู่บนโลกใบนี้ ไม่จำเป็นต้องบริจาคทรัพย์นับล้าน
หรือทำอะไรมากจนเกินกว่าที่ตัวเราจะทำได้
ทว่าหากเพียงทำสิ่งเล็กๆในแต่ละวัน ให้คนที่อยู่ใกล้ๆ เราขณะนั้น
รู้สึกดี มีกำลังใจ สุขใจ หรือขอบคุณในใจได้ แค่นั้นก็มากพอแล้ว
ชายหนุ่มหญิงสาวเห็นทางการเลื่อนไม้ออกแล้ว
จึงหันมาชวนชายชราให้เดินทางต่อ แต่ชายชราหายไปแล้ว
พวกเขางุนงงจึงออกเดินทางไป เพียงผ่านจุดที่ต้นไม้ล้มไปเพียงไม่กี่ก้าว
กลับเห็นรูปปั้นผู้เฒ่าคนนหนึ่งยืนยิ้มตระหง่านอยู่
พวกเขาถามทหารแถวนั้นว่า ชายผู้นี้คือใคร
ทหารตอบว่า
“เป็นพ่อเฒ่าท่านหนึ่งแซ่หู ท่านเป็นคนทางเหนือ
เดินทางมาทางใต้จนลงหลักปักฐานที่นี่ ครอบครัวนี้ดีมาก
มักทำบุญทำทาน ช่วยเหลือผู้คนไปทั่ว
จนวันหนึ่งครอบครัวทะยอยจากไปเหลือผู้เฒ่าเพียงลำพัง
ท่านผู้เฒ่ามักท่องเที่ยวไปทั่ว สร้างรอยยิ้มให้ผู้คน และสอนเรื่องดีๆ
แต่ท่านจากไปได้สิบปีแล้ว ท่านเป็นที่รักของชาวบ้านแถวนี้มากๆ
ทุกคนเคารพท่านเหมือนเทพประจำหมู่บ้านก็ว่าได้”
ทหารเล่าจบก็หันไปขนท่อนไม้ที่ผ่าไว้เป็นท่อนๆ ให้ออกไปพ้นทาง
ชายหนุ่มหญิงสาวยกมือไหว้
“ขอบคุณที่ชี้ทางพวกเรา การทำความดี ทำเพียงเล็กน้อย
แต่ทำอย่างสม่ำเสมอก็นับว่าวิเศษแล้วจริงๆ”
.
เครดิต : ปรัชญาพาสุข
𝐂𝐨𝐝𝐞 𝐎𝐟 𝐋𝐢𝐟𝐞 | 𝐅𝐚𝐜𝐞𝐛𝐨𝐨𝐤 𝐏𝐚𝐠𝐞
ปล.คนที่เกษียณอายุราชการก็มีโอกาสต่างๆที่จะช่วยเหลือเกื้อกูลสังคมของเราให้น่าอยู่ได้

เกษียณ KEEP ON RUNNING

เกษียณ KEEP ON RUNNING

เกษียณ,เกษียณอายุราชการ,ของที่ระลึกเกษียณอายุราชการ
ในปี 1983 ห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่ของประเทศออสเตรเลีย Westfield  ได้จัดการวิ่งแข่งขันระยะไกล อัลตรามาราธอน ระยะทาง 875 กิโลเมตร โดยเริ่มต้นจากเมืองซิดนีย์ไปยังเมลเบิร์น ด้วยระยะทางขนาดนี้  ไม่ต้องสงสัยว่า นี่เป็นหนึ่งในรายการวิ่งที่โหดที่สุดในโลก พร้อมกับตั้งเงินรางวัลชนะเลิศไว้สูงลิบ ล่อตาล่อใจนักวิ่งระดับโลกให้เข้ามาแข่งขัน
Cliff Young ชาวนาเจ้าของไร่มันและฟาร์มแกะ นึกสนุกอยากจะลงแข่งขันในรายการนี้ด้วย แต่ปัญหาคือ แกไม่เคยวิ่งแข่งขันรายการใดๆ มาก่อน และก็ไม่ได้เตรียมตัวอะไร และที่สำคัญคือแกอายุอานามปาเข้าไป 61ปีแล้ว
ชายวัยเกษียณไปสมัครวิ่งแข่งรายการใหญ่นี้ โดยไม่มีสปอนเซอร์ ด้วยความงุนงงสงสัยในอวัยวะที่ใช้คิด ทีมผู้จัดงาน พยายามสอบถามเพื่อเรียกสติสัมปะชัญญะของผู้สมัครหน้าเหี่ยวที่ยืนอยู่ตรงหน้า พลางหยิบยกเหตุผลด้านสุขภาพและเรื่องราวอัปมงคลที่อาจเกิดขึ้นได้ มาหว่านล้อมให้ลุงเปลี่ยนใจ แต่แกยืนยันว่า แกไม่ได้เสียสติอะไร พร้อมกับเล่าว่า แกยังวิ่งไล่ฝูงแกะ 2,000 ตัวในฟาร์มขนาด 2,000 เอเคอร์ของแก อยู่เป็นประจำ หลังจากทนความรั้นของลุง Young ไม่ไหว ทีมงานเลยจำใจให้แกลงแข่งตามต้องการ
ท่ามกลางนักวิ่งปอดเหล็กระดับโลกรุ่นลูก ใส่เสื้อกล้ามสปอนเซอร์จัดเต็ม พร้อมกางเกงขาสั้นโชว์ปลีน่องที่พกพาความฟิตมาเต็มพิกัด ส่วนลุง Young ลงแข่งในชุดทำงานในฟาร์ม พร้อมกางเกงขายาวที่ตัดเป็นรูแบบ manual เพื่อระบายอากาศ  ด้วยความรอบคอบ ก่อนวิ่งแกถอดฟันปลอมออก ด้วยรำคาญที่มันชอบกระทบกันเวลาวิ่ง พอออกสตาร์ท ทุกอย่างก็เป็นไปดังคาด แกโดนทิ้งห่างจากผู้แข่งทั้งหมดแบบไม่เห็นฝุ่น ท่าวิ่งเหยาะแหยะ พร้อมแขนห้อยสองข้างราวกับคนป่วยไม่มีแรงของแกนั้น ยิ่งสร้างความตลกขบขันให้กับผู้คน
ตอนนี้ เสียงของผู้ชมเริ่มแตกออกเป็นหลายฝ่าย
*บ้างก็สดุดีว่า การกระทำของแกนับเป็นการตัดสินใจที่กล้าหาญน่ายกย่อง
*บ้างก็ตำหนิว่า ผู้จัดงานวิ่งไม่ควรให้แกลงแข่ง เพราะอาจต้องจัดงานศพแทน
*บ้างก็ว่า แกเป็นคนบ้า สติไม่ค่อยดี และรอดูว่าแกจะหายบ้าเมื่อไหร่
*บ้างก็หัวเราะเฮฮาขบขัน คิดว่าแกเป็นคนบ้านนอกเร่อร่า นึกอยากจะดังสักครั้งก่อนตาย
แต่ไม่ว่าผู้คนจะมีความเห็นแตกต่างกันอย่างไร สิ่งหนึ่งที่ทุกคนคิดเหมือนกัน คือ แกไม่มีทางวิ่งจนจบเส้นชัยที่ 875 กิโลเมตรได้…
ในสมัยนั้น การวิ่งระยะทางไกลที่ใช้เวลาหลายๆ วัน นักวิ่งจะมีสูตรทางวิทยาศาสตร์การกีฬาว่าให้วิ่ง 18 ชั่วโมง และพัก 6 ชั่วโมง เพื่อให้กล้ามเนื้อได้พักผ่อนและรักษาความอึดในระยะทางยาวไกล และนักวิ่งแทบทั้งหมดก็ลงแข่งด้วยวิธีการนี้ทั้งสิ้น
แต่ประเด็นคือ ลุง Young แกไม่ใช่นักกีฬาอาชีพ โลกของแกไม่เคยมีคำว่าวิทยาศาสตร์การกีฬา แถมยังนึกว่าการแข่งวิ่งรายการนี้ เค้าห้ามนอน!!! สูตรเฉพาะตัวของแกเลยมาแบบบ้านๆ วิ่งมันไปเรื่อยๆ นี่แหละ พอเหนื่อยจนวิ่งต่อไม่ไหว ก็พักด้วยการแอบงีบข้างทาง เฉลี่ยเพียงแค่วันละ 1 ชั่วโมงเท่านั้น!
ในคืนแรก ขณะที่นักวิ่งรุ่นลูกกำลังพักผ่อน แกยังคงวิ่งเหยาะๆ อยู่ด้วยความอดทน เพียงไม่นาน ระยะทางที่ทิ้งห่าง ก็สั้นลงเรื่อยๆ….
พอเข้าเช้าวันที่สอง ท่ามกลางความประหลาดใจของทุกคน และสื่อมวลชนทุกแขนง ชายชราวัยเกษียณ ไม่เพียงแค่ยังวิ่งอยู่ แต่ยังนำเป็นที่หนึ่งในการแข่งขันด้วย!
ด้วยสูตรการวิ่งสุดพิสดาร วิ่ง 23 ชั่วโมง พัก 1 ชั่วโมง (ทำได้ไง!!!!) ไม่ว่านักวิ่งรุ่นลูก ที่ใช้สูตร วิ่ง 18 พัก 6 จะวิ่งอย่างไร ก็วิ่งไล่หนุ่มใหญ่วัยคราวพ่อไม่ทันเสียแล้ว…
เฉลี่ยแล้ว แม้ลุงแกจะวิ่งช้ากว่าใคร แค่ PACE 8 ปลายๆ หรือชั่วโมงละ 6.8 กิโลเมตร แต่เนื่องจากลุงแกวิ่งแบบไม่ยอมหลับยอมนอน ทำให้วันหนึ่ง แกวิ่งได้ถึง 155 กิโลเมตร วันหนึ่ง วิ่งเกือบ 4 มาราธอน!!!
หลายวันผ่านไป…ลุง Young วิ่งเหยาะๆๆๆ เข้าเส้นชัยที่เมลเบิร์น ด้วยเวลา 5 วัน 15 ชั่วโมง กับอีก 4 นาที เร็วกว่าสถิติเดิมที่เคยมีมาถึง 2 วัน และเร็วกว่านักวิ่งที่ตามมาถึง 10 ชั่วโมงเต็ม!!! นักวิ่งที่แก่ที่สุด และวิ่งได้ช้าที่สุด กลายเป็นผู้ชนะเลิศการแข่งวิ่งที่โหดหินได้ในที่สุด สื่อต่างๆ ประโคมข่าวการชนะเลิศของลุง Young ราวกับเป็นเหตุการณ์ระดับชาติ
หลังจากวิ่งชนะเลิศ ผู้จัดงานเรียก ชายชราหน้าแก่ เหลือเพียงแต่นามสกุลที่ยังหนุ่ม เดินขึ้นไปรับเงินรางวัลบนเวที ลุง Young ชาวนาบ้านนอก ที่ตอนนี้กลายเป็น National Hero เสียแล้ว ทำหน้างงๆ ก่อนจะกล่าวยอมรับด้วยความสับสนว่า ไม่เคยรู้มาก่อนว่าการแข่งขันนี้มีเงินรางวัลด้วย ด้วยความที่ไม่ได้มาวิ่งเพราะจะเอารางวัล คิดได้ดังนั้น ลุง Young เลยแจกเงินรางวัล 10,000 เหรียญ ให้กับนักวิ่งคราวลูก ที่หลงเหลือวิ่งเข้าเส้นชัยจนจบ แค่ 5 คน เท่าๆ กัน คนละ 2,000 เหรียญ โดยที่แกไม่ได้เก็บรางวัลไว้เองแม้แต่เซนต์เดียว!
ทุกวันนี้ ท่าวิ่งห้อยแขนของแก กลายมาเป็นท่าวิ่งมาตรฐานท่าหนึ่งของนักวิ่ง ด้วยว่ามันกินพลังงานน้อยกว่า และด้วยมาตรฐานความอึดใหม่ที่ชายชราสร้าง ให้นักวิ่งอุลตร้ามาราธอนรุ่นหลังต้องนอนแค่วันละ 1-2 ชั่วโมง เพิ่มขีดความทรมาณหนักหน่วงขึ้นไปอีกขั้น…
เพื่อเป็นการสดุดีวีรกรรมโลกไม่ลืม รัฐบาลออสเตรเลีย ตั้งชื่อถนนและสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง ชื่อว่า Cliff Young เพื่ออุทิศเป็นเกียรติให้กับเขา
….ครับ…..บางครั้ง การไม่รู้ว่าขีดจำกัดของเรานั้นอยู่ที่ไหน ก็ทำให้มนุษย์เรานั้นไม่มีขีดจำกัด KEEP ON RUNNING!!!
บทความอาจจะยาวหน่อยแต่ตั้งใจจะแบ่งปันและหากคิดว่าใครได้อ่านจนจบคงจะมีกำลังใจในเรื่องต่างๆในการก้าวต่อไปนะครับ
#เรื่องดีๆมีไว้แบ่งปัน
#BenjBenjamin
ของที่ระลึกเกษียณอายุราชการ,เกษียณอายุราชการ

อาทิตย์ อัสดง

      อาทิตย์ อัสดง เตือนสติชาวเกษียณ

ของที่ระลึกเกษียณอายุราชการ,เกษียณอายุราชการ

ลีกาซิง อภิมหาเศรษฐีของฮ่องกง นักธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ ร่ำรวยอันดับ ๑ ของฮ่องกง ต่อเนื่องยาวนาน. ตลอดชีวิตที่ผ่านมา. เขาป็นมนุษย์บ้างานอย่างหนัก. จวบจนเข้าสู่ปัจฉิมวัย อายุ ๙๒ ปี จึงประกาศวางมือ เกษียณจากหน้าที่การงาน ไปเมื่อปี พ.ศ. 2561 ท่ามกลางสุขภาพย่ำแย่ และป่วยหนัก ขณะที่พักรักษาตัวในห้องคนป่วย. ได้เขียนบทกวีจีน ในหัวข้อว่า”อาทิตย์ อัสดง” เพื่อเตือนสติแก่บรรดาผู้เกษียณอายุราชการทั้งหลายและบุคคลทั่วไปให้สำนึกก่อนสายเกินแก้. ไม่ต้องโทษตัวเองว่า
รู้ งี้ จะละสิ่งนี้ จะไม่ทำสิ่งนั้น เป็นต้น.
ในบทกวีนิพนธ์ เขียนไว้รวม ๑๕ ข้อ ดังต่อไปนี้ .-
๑. ลิขิตฟ้ากำหนดมา. ชีวิตทุกคนมาจากศูนย์ ดำเนินไปในทิศทางใด ยากดี. มีจน. รุ่งเรืองหรือรุ่งริ่ง. สุดท้ายต่างจบลงที่เลขศูนย์
๒. ยามแก่ชรา เวลาเหลือน้อย. อย่าคาดหวังร่ำรวยเงินทอง แม้ชีวิตยังเหลืออยู่. หรือหลัง. ความตาย สมบัติพัสถาน จะยังมีสิ่งใดเป็นของเจ้าล่ะ ? ต้องตระหนักรู้สัจธรรมความจริง. อย่าได้หลงผิด. หลอกตัวเอง
๓.รู้จักเพียงพอ. ย่อมเกิดสุข. ชีวิตวัยชราต้องสงบสุข. ไม่ตื่นเต้น ดีใจกับความร่ำรวย ไม่เศร้าสร้อย เสียใจเพราะยากจน. ยอมรับตามสภาพที่แท้จริง
๔. ไม่มักใหญ่ใฝ่สูง. ก่อศึกแย่งชิง. ชีวิตคนนั้นแสนสั้น. ดั่งความฝัน. เหมือนปุยเมฆ หมอกควัน ล่องลอยจางหาย. ลับไป
๕. ดวงตะวัน ดวงจันทร์. กาลเวลา และกระแสน้ำ หมุนเวียน ผันแปรไปตลอดกาล
เคหะสถาน ที่ดิน ไร่นา ล้วนสลับ. สับเปลี่ยนเจ้าของถือครอง. เป็นมาตราบนิจนิรันดร์
๖. สายใยรัก ความรักความเอื้ออาทรที่มีต่อกัน เมื่อสิ้นใจ ก็สิ้นสลาย หายเข้าไปในปล่องควัน เมรุเผาศพ. เงินทองมากเพียงใดก็นำไปไม่ได้
๗. ชื่อเสียง. ดีงาม หรือ เลวร้าย ชัยชนะ หรือพ่ายแพ้ ผลได้หรือผลเสีย . ต่างสะดุดหยุดลง. เมื่อชีวิตปิดฉากจบลงที่ปลายทาง
๘. ยศฐาบรรดาศักดิ์. อำนาจวาสนา บุญบารมี ไม่มีใครยึดครองได้ตลอดไป. .สุดท้าย รวยก็จบ. จนก็จบ. ต้องตระหนักรู้ตัวตนที่แท้จริง ชีวิตก็เป็นเพียงเช่นนี้นั่นเอง
๙. ฤดูวสันต์ผันผ่านตามด้วย คิมหันต์ ถึงสารท. และเหมันต์ ฤดูกาล ทั้ง ๔ อีกทั้ง น้ำขึ้นน้ำลง หมุนเวียน เปลี่ยนผ่านไม่จบสิ้น. มองทะลุ ทุกมิติชีวิตคน. ทุกๆ ครัวเรือนต่างมีปัญหาที่แตกต่างกันไป ต้องยอมรับ และอย่าทุกข์ระทมขมขื่น. ผูกเจ็บฝังใจ. ไว้ทำไย ?
๑๐. การมีบุตรชาย – หญิง. เป็นภาระหน้าที่ของพ่อแม่. เลี้ยงดูอุ้มชูในอ้อมกอด. ย่อมเป็นสุข
ลูกหลานต่างมีบุญวาสนาของตน. อย่าควบคุมบังคับเหมือนใส่กรง. ยามแก่มีสุขภาพดีก็สุขแล้ว
๑๑. ชีวิตมนุษย์เสมือนผึ้งน้อย. เช้าโน่น. เย็นนี่ ตระเวนดูดน้ำหวานจากเกสรดอกไม้. สร้างสมเป็นน้ำผึ้ง. เหนื่อยยากมาทั้งชีวิตเพื่อใคร ? วาระสุดท้ายกลับสูญเปล่าไร้ค่าส่วนตน. มองเห็นธาตุแท้. รู้เช่นเห็นชาติ. ควรผ่อนคลายการขับเคี่ยว. ลดละแย่งชิง ทะนุถนอม รักษากายใจ. เพื่อความสุขสมบูรณ์ในวัยชรา ดั่งใจปอง
๑๒. มองจากไกลเห็นโรงพยาบาลคล้ายสวรรค์ มองเข้าใกล้ เหมือนธนาคาร. ดึงดูดกอบโกยทรัพย์ นับไม่ถ้วน. เข้าไปเหมือนห้องขัง. ต้องป้องกันอย่าเข้าใกล้โดยเด็ดขาด
๑๓. สุขภาพดีเป็นสินทรัพย์นับไม่ถ้วน. สุขภาพดีเหมือนออมทรัพย์. โรคภัยไข้เจ็บ คือการกู้เงิน- ใช้หนี้. ป่วยหนักอาจล้มละลายหมดตัว ไม่ใช่พูดล้อเล่น เดี๋ยวจะสายเกินแก้
๑๔. ลุกขึ้นปกป้องสุขภาพ ไม่นอนรอให้ใครมาหลอกเอาเงินไป. ไม่ดูแลสุขภาพ. เท่ากับเลี้ยงดูหมอ. ช่วยเหลือโรงพยาบาล มองการณ์ไกล รักครอบครัว ต้องรักษาตัวตนก่อน
๑๕. ชีวิตนั้นแสนสั้น. อย่ามัว วุ่นวายกับการหาเงินหาทอง แม้มีมากเพียงใด ก็ใช้ห้าม ตะวันตกดินไม่ได้. เงินทองซื้อสุขภาพไม่ได้ ความเป็นความตาย เป็นดวงชะตากรรม. มั่งคั่งร่ำรวยเป็นลิขิตฟ้า
ยากจะฝ่าฝืน นำพา แม้บุญไม่มาดิ้นไปก็ไร้ผล ลูกหลานต่างมีบุญมาวาสนาเกิด. อย่าเป็นวัวเป็นควาย. ฝ่าฟันเพื่อลูกหลาน. ต้องวิเคราะห์เจาะลึก รู้ซึ้งสิ่งใด. หนัก – เบา. ลาภยศสรรเสริญ เป็นเพียงปุยเมฆลอยผ่าน มั่งมีศรีสุข เป็นแค่งานเลี้ยงเฉลิมฉลอง. แค่พริบตาเดียว เส้นผมขาวโพนเต็มศรีษะ. เรื่องราวทั้งหลายผ่านไปราวหมอกควัน ไม่ควรเอาเป็นเอาตาย ทุกเรื่องราว. รกจิต หมองใจ. ทรมานกาย เปล่าๆ.
ขอมอบเคล็ดลับ ๑๐ สิ่งให้ชื่นใจ
๑.ใจเปิดกว้าง. ๒.คิดให้ตก. ๓.ทิ้งให้ได้. ๔.วางให้ลง. ๕.ยอมถอย. ๖.ให้อภัย. ๗.เห็นใจ. ๘.ละทิ้ง. ๙.ยินยอม ๑๐ มีคุณธรรม

5 วิธีเกษียณให้มีความสุข

5 วิธีเกษียณให้มีความสุข

  1 เกษียณคือการเริ่มต้น

ได้ทำสิ่งที่อยากได้ทำได้อ่านหนังสือที่ซื้อมาเก็บไว้ได้เขียนหนังสือที่ไม่มีเวลาเขียนได้ทำสิ่งที่อยากทำแต่ทำไม่ได้เพราะเมื่อก่อนต้องทำงาน  ถ้าเป็นเช่นนี้การเกษียณไม่ใช่การหยุดแต่เป็นจุดที่จะเริ่มทำอะไรใหม่ๆต่างหาก

2 หางานทำ

หลังเกษียณเหงาใจไม่มีอะไรทำก็หางานที่เขารับคนวัยเกษียณทำก็ได้เคยเห็นพนักงานขายหนังสือในร้านดังให้โอกาสคนวัยเกษียณมาทำงานดูแล้วสบายตาสบายใจถ้ากลัวเหนื่อยเกินไปหางาน Part Time ทำก็ได้  ยิ่งที่เป็นงานที่ตัวเองรัก ถ้ารักต้นไม้ได้ทำงานเกี่ยวกับต้นไม้จะได้ทั้งเงินได้ทั้งความอิ่มเอมใจ

 3 ช่วยงานอาสา

ได้ทั้งได้รายได้ช่วยงานสังคมเป็นจิตอาสาๆทั้งประโยชน์ต่อส่วนรวมได้ทั้งเพื่อนได้ทั้งความอิ่มเอมใจและทำตัวให้มีประโยชน์ช่วยงานในท้องถิ่นของตัวเองแม้งานจะไม่ใหญ่โตอะไรแต่บ่งบอกว่าหัวใจคุณใหญ่มาก

4 พัฒนาความสามารถพิเศษ

ถ้า ทำอาหารเก่งขึ้นใครจะรู้อาจจะมีสุดยอดเชฟเกิดขึ้นได้ในวัยเกษียณ ถ้าชอบวาดรูปคราวนี้มีเวลาวาดได้เยอะเลยอายุ  ชอบร้องเพลงฝึกฝนให้เก่งขึ้น ในวันนี้คนที่มีเวลาคุณได้พัฒนาสิ่งที่คุณชอบทำมากมายได้ในวัยเกษียณ

5ไม่หยุดเรียนหยุดรู้

เปิดรับสิ่งใหม่ๆเทคโนโลยีใหม่ๆความรู้ใหม่ๆสิ่งท้าทายใหม่ๆให้กับชีวิต   อายุไม่ได้บ่งบอกว่าคนเก่าแต่คนเราเก่าเพราะไม่ยอมรับสิ่งใหม่ๆต่างหากยินดีก้าวไปพร้อมกับโลกใบนี้ไม่ว่าคุณจะมีอายุเท่าไหร่ก็ตาม